บุคคลสำคัญของประเทศมาเลเซียดร.มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (Dr.Mahathir bin M การแปล - บุคคลสำคัญของประเทศมาเลเซียดร.มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (Dr.Mahathir bin M อังกฤษ วิธีการพูด

บุคคลสำคัญของประเทศมาเลเซียดร.มหาเธ

บุคคลสำคัญของประเทศมาเลเซีย
ดร.มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (Dr.Mahathir bin Mohamad)
นายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด เป็นผู้วางรากฐานพัฒนาประเทศในรูปแบบของแผนพัฒนาประเทศที่มีชื่อว่า VISION 2020 ซึ่งเป็นผู้นำมาเลเซียสู่ความเจริญทัดเทียมนานาประเทศ
มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของประเทศมาเลเซีย
ประวัติ
มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (ยาวี: محضير بن محمد อังกฤษ: Mahathir bin Mohamad) เกิดที่รัฐเกดะห์ วันที่ 10 กรกฎาคม เมื่อปี พ.ศ. 2468 เป็นหนึ่งใน 4 ขอนายกรัฐมนตรีที่มีชื่อเสียงของมาเลเซีย ภายใต้พรรครัฐบาลที่เขาจัดตั้งขึ้นรวมระยะเวลาทั้งสิ้น 22 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 จนถึงปี 2546 ทำให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียที่อยู่ในวาระที่นานที่สุด เขา จบแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมาลายา ประเทศสิงคโปร์ เมื่อ พ.ศ. 2498ทำงานเป็นหมอได้ 2 ปี ก่อนลาออกจากราชการ สมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐบ้านเกิด เป็น ส.ส. อยู่ 14 ปี ก่อนที่จะเข้าสู่รัฐสภาในปี พ.ศ. 2507 เขาทำหน้าที่อยู่ระยะนึงก่อนที่จะสูญเสียตำแหน่ง ส.ส ที่บ้านเกิดของเขาเอง หลังจากนั้น มหาเธร์ก็ถูกไล่ออกจากพรรคพันธมิตรอัมโน (UMNO) เมื่อ พ.ศ. 2512 เมื่อนายก อับดุล ราซะก์ เข้ารับตำแหน่ง แล้วกลับมาในพรรค อัมโน อีกครั้ง หลังจากที่ อับดุล ราซะก์ ลาออก และหลังจากนั้นก็ได้รับเลื่อนตำแหน่งให้เป็น คณะรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2519 และต่อมาก็ได้รับเลือกให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และต่อมาในปี พ.ศ. 2524 มหาเธร์ก็ได้เข้าพิธีสาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย หลังจากการลาออกของ ฮุซเซน อน ถือเป็นการเปิดฉากเริ่มต้นการเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งที่นานที่สุดของ มาเลเซีย
ตลอดระยะการทำงานเป็นนายกรัฐมนตรีของ มหาเธร์ มาเลเซียเป็นประเทศที่มี อัตราการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจ สูงจนหน้าจับตาของโลก

ตนกู อับดุล ราห์มาน (Tunku Abdul Rahman)
ผู้นำมาเลเซียไปสู่เอกราชและเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศ ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาของประเทศ (Bapa of Malaysia)


ตนกู อับดุล ราห์มาน
นายกรัฐมนตรีคนแรก ของประเทศมาเลเซีย
ผู้นำการเรียกร้องเอกราชให้แก่ประเทศมาเลเซีย
ได้รับยกย่องเป็นบิดาแห่งประเทศมาเลเซียหรือ PaPa of Malaysia
ประวัติ
ตนกู อับดุล ราห์มัน เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 ที่วังอิสตานาเปอลามิน (Istana Pelamin) เมืองอลอร์สตาร์ รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในขณะนั้นยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร เป็นบุตรของเจ้าพระยาไทรบุรี (อับดุลฮามิด) (เจ้าพระยาฤทธิสงคราม)[1] สุลต่านองค์ที่ 24 แห่งรัฐเกดะห์ กับหม่อมมารดาชาวไทยนามว่า หม่อมเนื่อง นนทนาคร[2] หรือมะเจ๊ะเนื่อง หรืออีกชื่อว่า ปะดูกา ซรี เจ๊ะเมินยาราลา (Paduka Seri Cik Menjalara) ชายาองค์ที่ 6 ของท่านสุลต่าน ซึ่งเป็นบุตรีของหลวงบุรานุรักษ์ เจ้าเมืองนนทบุรีในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยตนกู อับดุล ราห์มันเป็นลูกชายคนที่ 14 จากบรรดาลูก 20 คนของสุลต่านอับดุลฮามิด
ตนกู อับดุล ราห์มัน มีพระเชษฐาร่วมพระมารดาคือ ร้อยเอกตนกู ยูซุฟ (รับราชการในกรมตำรวจ) เพื่อนสนิทของเจ้าคุณอนุสาสน์พณิชย์การ

ประวัติการศึกษา
เมื่อปี พ.ศ. 2452 (ค.ศ. 1909) ตนกู อับดุล ราห์มัน ได้เข้าศึกษาในชั้นประถมมาเลย์ (Malay Primary School) ที่ถนนบาฮารู (Jalan Baharu) ในเมืองอลอร์สตาร์ ประเทศมาเลเซีย ต่อด้วยเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนในปกครองของอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันเป็นวิทยาลัยสุลต่านอับดุลฮามิด
ท่านตนกู อับดุล ราห์มาน ท่านเป็นนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ในปี พ.ศ. 2456 ขณะที่มีอายุ เพียง 10 ขวบ ถูกส่งตัวมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับพี่ชายของเขาอีก 3 คน ท่านเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นและเพื่อนสนิท คือ ถวิล คุปตารักษ์ หรือหลวงถวิลเศรษฐพาณิช เรียนอยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ 2 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2456-2458 ต่อมาปี พ.ศ. 2458 เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนปีนังฟรีสกูล(Penang Free School)
ปี พ.ศ. 2461 ท่านเป็นนักเรียนคนแรกที่ได้ทุนจากรัฐบาลของรัฐเกดะห์ ที่ไปศึกษาในสหราชอาณาจักร ไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยเซนต์แคทรีน (St Catharine's College) ในมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ และได้รับปริญญาบัณฑิตสาขาศิลปศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1925
หลังจากกลับมาจากอังกฤษทำงานอยู๋ช่วงเวลาหนึ่ง ได้เดินทางไปศึกษาวิชากฎหมายต่อ ที่ Inner Temple ที่ประเทศอังกฤษ แต่ต้องหยุดเรียน ในปี ค.ศ. 1938 เนื่องจากช่วงนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2ขึ้น ทำให้เขาต้องหยุดเรียนและกลับมาที่มาเลเซีย หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ในปี ค.ศ. 1947 จึงกลับไปศึกษาที่ Inner Temple อีก และจบการศึกษาในปี ค.ศ. 1949
ประวัติการทำงาน
หลังจบการศึกษาอับดุลราห์มานเข้ารับราชการในเกดะห์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองที่เขตกูลิม (Kulim) และ สุไหงปตานี (Sungai Petani) ในอาณานิคมของสหราชอาณาจักร ได้รับเลือกให้เป็นประธานของสมาคมมาเลย์ของสหราชอาณาจักร (the Malay Society of Great Britain)
ปี ค.ศ. 1949 ในช่วงแรกของอาชีพนักการเมือง เขาได้เข้ารับงานราชการเป็นที่แรกที่สำนักงานกฎหมายของเมืองอลอร์สตาร์ ต่อมาเมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นอัยการก็มีคำสั่งให้ย้ายไปประจำที่ กัวลาลัมเปอร์ และหลังจากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานศาล ในช่วงเวลานั้นได้มีกลุ่มลัทธิชาตินิยมในมาเลย์ ในการต่อต้านสหภาพมาลายาของอังกฤษ (Britain's Malayan Union) นำโดย ดาโต๊ะอันจาฟาร์ (Datuk Onn Jaafar) นักการเมืองของมาเลเซียที่เป็นผู้นำขององค์การประชาชาติมาเลเซียหรือพรรคแนวร่วมแห่งสหพันธ์มลายา (UMNO ที่เป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ในมาเลเซีย) และท่านตนกู อับดุล ราห์มาน ได้สมัครเข้าร่วมกับพรรคอัมโน (UMNO) ท่านเป็นนักการเมืองเชื้อสายชาวมาเลย์ที่ได้รับความนิยมและยอมรับจนได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าสาขาของพรรคอัมโนในรัฐเกดะห์
เดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 1951 เกิดวิกฤตทางการเมืองขึ้นได้รับเลือกให้เป็นประธานพรรคแนวร่วมแห่งสหพันธ์มาลายา (UMNO) คนใหม่และดำรงตำแหน่งเป็นเวลานานถึง 20 ปี และ จนในปี ค.ศ.1954 เป็นตัวแทนคณะผู้แทนเจรจาขอเอกราชมาเลเซียคืนจากสหราชอาณาจักร
ปี ค.ศ. 1955 มีการเลือกตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก พรรคชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากแบบถล่มทลายในสภา ท่านได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเซีย นับเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1957 จนถึง22 กันยายน ค.ศ. 1970 และหลังชัยชนะจากการเลือกตั้งท่านยังรณรงค์ต่อสู่เรียกร้อ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
บุคคลสำคัญของประเทศมาเลเซียดร. มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (Dr. Mahathir bin Mohamad) นายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด ซึ่งเป็นผู้นำมาเลเซียสู่ความเจริญทัดเทียมนานาประเทศ เป็นผู้วางรากฐานพัฒนาประเทศในรูปแบบของแผนพัฒนาประเทศที่มีชื่อว่า VISION 2020มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของประเทศมาเลเซียประวัติมหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (ยาวี محضير بن: Frances อังกฤษ: Mahathir bin Mohamad) เกิดที่รัฐเกดะห์ วันที่ 10 กรกฎาคม เมื่อปี ศ. 2468 พ. 4 ขอนายกรัฐมนตรีที่มีชื่อเสียงของมาเลเซีย ภายใต้พรรครัฐบาลที่เขาจัดตั้งขึ้นรวมระยะเวลาทั้งสิ้น เป็นหนึ่งใน ปี นับตั้งแต่ปี พ 22. ศ. 2524 จนถึงปี ทำให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียที่อยู่ในวาระที่นานที่สุด จบแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมาลายา ประเทศสิงคโปร์ เขา 2546 เมื่อ พ ศ. 2498ทำงานเป็นหมอได้. 2 ก่อนลาออกจากราชการ สมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐบ้านเกิด ปี เป็น ส. ส อยู่ ปี ก่อนที่จะเข้ 14.พ. าสู่รัฐสภาในปี ศ. 2507 ส เขาทำหน้าที่อยู่ระยะนึงก่อนที่จะสูญเสียตำแหน่ง. ที่บ้านเกิดของเขาเอง หลังจากนั้น มหาเธร์ก็ถูกไล่ออกจากพรรคพันธมิตรอัมโน ส (UMNO) พ. ศ เมื่อ. เมื่อนายก อับดุล ราซะก์ 2512 แล้วกลับมาในพรรค อัมโน อีกครั้ง หลังจากที่ เข้ารับตำแหน่ง อับดุล ราซะก์ ลาออก และหลังจากนั้นก็ได้รับเลื่อนตำแหน่งให้เป็น คณะรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2519 และต่อมาก็ได้รับเลือกให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และต่อมาในปี พ.ศ. 2524 มหาเธร์ก็ได้เข้าพิธีสาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย หลังจากการลาออกของ ฮุซเซน อน ถือเป็นการเปิดฉากเริ่มต้นการเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งที่นานที่สุดของ มาเลเซีย ตลอดระยะการทำงานเป็นนายกรัฐมนตรีของ มหาเธร์ มาเลเซียเป็นประเทศที่มี อัตราการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจ สูงจนหน้าจับตาของโลก ตนกู อับดุล ราห์มาน (Kg.tunku Abdul Rahman) ผู้นำมาเลเซียไปสู่เอกราชและเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศ ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาของประเทศ (Bapa of Malaysia) ตนกู อับดุล ราห์มานนายกรัฐมนตรีคนแรก ของประเทศมาเลเซียผู้นำการเรียกร้องเอกราชให้แก่ประเทศมาเลเซียได้รับยกย่องเป็นบิดาแห่งประเทศมาเลเซียหรือ Pope of Malaysiaประวัติตนกู อับดุล ราห์มัน เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ. ที่วังอิสตานาเปอลามิน ศ. 2446 (Istana Pelamin) รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในขณะนั้นยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร เป็นบุตรของเจ้าพระยาไทรบุรี เมืองอลอร์สตาร์ (อับดุลฮามิด) (เจ้าพระยาฤทธิสงคราม) [1] สุลต่านองค์ที่ แห่งรัฐเกดะห์ กับหม่อมมารดาชาวไทยนามว่า หม่อมเนื่อง นนทนาคร 24 [2] หรืออีกชื่อว่า ปะดูกา ซรี เจ๊ะเมินยาราลา หรือมะเจ๊ะเนื่อง (HR Manager Menjalara Seri Paduka) 6 ของท่านสุลต่าน ซึ่งเป็นบุตรีของหลวงบุรานุรักษ์ เจ้าเมืองนนทบุรีในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุล ชายาองค์ที่จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยตนกู อับดุล ราห์มันเป็นลูกชายคนที่ 14 จากบรรดาลูก 20 คนของสุลต่านอับดุลฮามิดตนกู อับดุล ราห์มัน มีพระเชษฐาร่วมพระมารดาคือ ร้อยเอกตนกู ยูซุฟ (รับราชการในกรมตำรวจ) เพื่อนสนิทของเจ้าคุณอนุสาสน์พณิชย์การประวัติการศึกษาพ. เมื่อปี ศ. 2452 (ค. ศ. 1909) ตนกู อับดุล ราห์มัน ได้เข้าศึกษาในชั้นประถมมาเลย์ (Malay Primary School) ที่ถนนบาฮารู (Jalan Baharu) ในเมืองอลอร์สตาร์ ประเทศมาเลเซีย ต่อด้วยเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนในปกครองของอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันเป็นวิทยาลัยสุลต่านอับดุลฮามิดท่านตนกู อับดุล ราห์มาน ท่านเป็นนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ในปี ศ. 2456 พ. ขณะที่มีอายุ เพียง ขวบ ถูกส่งตัวมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับพี่ชายของเขาอีก 10 3 คน ท่านเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ในกรุงเทพมหานคร โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นและเพื่อนสนิท ถวิล คุปตารักษ์ ประเทศไทย คือ เรียนอยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ 2 หรือหลวงถวิลเศรษฐพาณิช จนถึงปี ปี พ. 2456-2458. ศ ต่อมาปี พ. ศ. 2458 เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนปีนังฟรีสกูล (Penang Free School)พ ปี. ศ. 2461 ท่านเป็นนักเรียนคนแรกที่ได้ทุนจากรัฐบาลของรัฐเกดะห์ ที่ไปศึกษาในสหราชอาณาจักร ไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยเซนต์แคทรีน (St Catharine's College) ในมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ และได้รับปริญญาบัณฑิตสาขาศิลปศาสตร์ ในปี ศ. 1925 ค.หลังจากกลับมาจากอังกฤษทำงานอยู๋ช่วงเวลาหนึ่ง ได้เดินทางไปศึกษาวิชากฎหมายต่อ ที่ประเทศอังกฤษ แต่ต้องหยุดเรียน Inner Temple ที่ ในปี ค. ศ เนื่องจากช่วงนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1938 ทำให้เขาต้องหยุดเรียนและกลับมาที่มาเลเซีย หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง 2ขึ้น ในปี ค. ศ จึงกลับไปศึกษาที่ 1947 Inner Temple อีก และจบการศึกษาในปี ศ. 1949 ค.ประวัติการทำงานหลังจบการศึกษาอับดุลราห์มานเข้ารับราชการในเกดะห์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองที่เขตกูลิม (Kulim) และ สุไหงปตานี (Sungai Petani) ในอาณานิคมของสหราชอาณาจักร ได้รับเลือกให้เป็นประธานของสมาคมมาเลย์ของสหราชอาณาจักร (the Malay Society of Great Britain)ปี ค. ศ ในช่วงแรกของอาชีพนักการเมือง 1949 ต่อมาเมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นอัยการก็มีคำสั่งให้ย้ายไปประจำที่ กัวลาลัมเปอร์ และหลังจากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานศาล ในช่วงเวลานั้นได้มีกลุ่มลัทธิชาตินิยมในมาเลย์ เขาได้เข้ารับงานราชการเป็นที่แรกที่สำนักงานกฎหมายของเมืองอลอร์สตาร์ ในการต่อต้านสหภาพมาลายาของอังกฤษ (Britain's Malayan Union) นำโดย ดาโต๊ะอันจาฟาร์ (Datuk Onn Jaafar) นักการเมืองของมาเลเซียที่เป็นผู้นำขององค์การประชาชาติมาเลเซียหรือพรรคแนวร่วมแห่งสหพันธ์มลายา (UMNO ที่เป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ในมาเลเซีย และท่านตนกู อับดุล ราห์มาน ได้สมัครเข้าร่วมกับพรรคอัมโน) (UMNO) ท่านเป็นนักการเมืองเชื้อสายชาวมาเลย์ที่ได้รับความนิยมและยอมรับจนได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าสาขาของพรรคอัมโนในรัฐเกดะห์ศ เดือนสิงหาคม ปี ค. 1951 เกิดวิกฤตทางการเมืองขึ้นได้รับเลือกให้เป็นประธานพรรคแนวร่วมแห่งสหพันธ์มาลายา (UMNO) 20 คนใหม่และดำรงตำแหน่งเป็นเวลานานถึง และ จนในปี ปี ค. ศ เป็นตัวแทนคณะผู้แทนเจรจาขอเอกราชมาเลเซียคืนจากสหราชอาณาจักร, 1954ปี ค.ศ. 1955 มีการเลือกตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก พรรคชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากแบบถล่มทลายในสภา ท่านได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเซีย นับเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1957 จนถึง22 กันยายน ค.ศ. 1970 และหลังชัยชนะจากการเลือกตั้งท่านยังรณรงค์ต่อสู่เรียกร้อ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

บิน โมฮัมหมัด (Dr.Mahathir bin Mohamad)
นายกรัฐมนตรี คน ที่ 4 ดำรง ตำแหน่ง ยาวนาน ที่สุด VISION 2020
บิน โมฮัมหมัด บิน โมฮัมหมัด (ยา วี: محضير بن محمد อังกฤษ: Mahathir bin Mohamad) เกิด ที่ รัฐ เก ดะ ห์ วัน ที่ 10 กรกฎาคม เมื่อ ปี พ.ศ. เป็น หนึ่ง ใน April 2468 22 ปี นับ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2524 จนถึง ปี 2546 เขา จบ แพทยศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัย มาลา ยา ประเทศ สิงคโปร์ เมื่อ พ.ศ. 2498 ทำงาน เป็น หมอ ได้ 2 ปี ก่อน ลา ​​ออก จาก ราชการ เป็น ส.ส. อยู่ 14 ปี ก่อน ที่ จะ เข้า สู่ รัฐสภา ใน ปี พ.ศ. 2507 ส. ส ที่ บ้าน เกิด ของ เขา เอง หลังจาก นั้น (UMNO) เมื่อ พ.ศ. 2512 เมื่อ นายก อับ ดุล รา ซะ ก์ เข้า รับ ตำแหน่ง แล้ว กลับ มา ใน พรรค อัม โน อีก ครั้ง หลังจาก ที่ อับ ดุล รา ซะ ก์ ลา ออก คณะรัฐมนตรี ใน ปี พ.ศ. 2519 และ ต่อ มา ใน ปี พ.ศ. 2524 หลังจาก การ ลา ออก ของ ฮุ ซ เซน อน มหา ประเทศ ที่ เป็น มาเลเซีย เธ ร์ มี การ อัตรา เจริญ เติบโต ทาง เศรษฐกิจ โลก ของ สูง จน หน้า จับตาตน ห์ รา มา กู อับ ดุล น (Tunku Abdul (BAPA of Malaysia) ตน ห์ รา มา กู อับ ดุล นคน แรก นายกรัฐมนตรี Pope of Malaysia ประวัติตน กู อับ ดุล รา วัน ที่ ห์ มัน เกิด เมื่อ กุมภาพันธ์ พ.ศ. August 2446 ที่ วัง อิส ตา นา เป อ ลา มิ น (Istana Pelamin) เมือง อลอร์สตาร์ รัฐ เก ดะ ห์ ประเทศ มาเลเซีย เป็น บุตร ของ เจ้าพระยา ไทรบุรี (อับ ดุล ฮา มิด) (เจ้าพระยา ฤ ทธิ สงคราม) [1] 24 สุลต่าน องค์ ที่ แห่ง รัฐ เก ดะ ห์ กับ หม่อม มารดา ชาว ไทย นาม ว่า หม่อม เนื่อง น นท นาคร [2] หรือ มะ เจ๊ะ เนื่อง หรือ อีก ชื่อว่า ปะ ดู กา ซ รี เจ๊ะ เมิน ยา รา ลา (Paduka Seri Cik Menjalara) ชายา องค์ ที่ 6 ของ ท่าน สุลต่าน ซึ่ง เป็น บุตรี ของหลวง บุ รา นุ รักษ์ โดย ตน กู อับ ดุล รา ห์ มัน เป็น ลูกชาย คน ที่ 14 จาก บรรดา ลูก ของ คน สุลต่าน 20 อับ ดุล มิด ฮารา ตน กู อับ ดุล ห์ มัน มี พระ เชษฐา ร่วม พระมารดา คือ ร้อย เอก ตน กู ซุ ฟ ยู (รับ ราชการ ใน กรม ตำรวจ ) พ.ศ. 2452 (ค.ศ. 1909) ตน กู อับ ดุล รา ห์ มัน ได้ เข้า ศึกษา ใน ชั้น ประถม มาเล ย์ (Malay Primary School) ที่ ถนน บา ฮา รู (Jalan Baharu) ใน เมือง อลอร์สตาร์ ประเทศ มาเลเซีย อับ ดุล รา ห์ มา น ท่าน เป็น นักเรียน เก่า เทพศิรินทร์ ใน ปี พ.ศ. 2456 ขณะ ที่ มีอายุ เพียง 10 ขวบ ร่วม กับ พี่ ชาย ของ เขา อีก 3 คน ใน กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดย มี เพื่อน ร่วม รุ่น และ เพื่อน สนิท คือ ถวิล คุป ตา รักษ์ หรือ หลวง ถวิล เศรษฐ พาณิช เรียน อยู่ ที่ โรงเรียน เทพศิรินทร์ 2 ปี จนถึง ปี พ.ศ. 2456-2458 ต่อ มา ปี พ.ศ. 2458 Free School) ปี พ.ศ. 2461 ที่ ไป ศึกษา ใน สห ราช อาณาจักร ไป ศึกษา ต่อ ที่ วิทยาลัย เซนต์ แค ท รี น (St Catharine's College) ใน มหาวิทยาลัย แคม บริดจ์ ใน ปี ค.ศ. ได้ เดินทาง ไป ศึกษา วิชา กฎหมาย ต่อ ที่ Inner Temple ที่ ประเทศ อังกฤษ แต่ ต้อง หยุด เรียน ใน ปี ค.ศ. 1938 2 ขึ้น หลังจาก สงครามโลก ครั้ง ที่ 2 สิ้นสุด ลง ใน ปี ค.ศ. 1947 จึง กลับ ไป ศึกษา ที่ Inner Temple อีก และ จบ การ ศึกษา ใน ปี ค.ศ. (Kulim) และ สุ ไห ง ป ตานี (Sungai Petani) ใน อาณานิคม ของ สห ราช อาณาจักร (The Malay Society of Great Britain) ปี ค.ศ. 1949 ใน ช่วง แรก ของ อาชีพ นักการเมือง กัวลาลัมเปอร์ ใน การ ต่อต้าน สหภาพ มาลา ยา ของ อังกฤษ (Britain's Malayan Union) นำ โดย ดา โต๊ะ อัน จา ฟา ร์ (Datuk Onn Jaafar) (UMNO และ ท่าน ตน กู อับ ดุล รา ห์ มา น ได้ สมัคร เข้า ร่วม กับ พรรค อัม โน (UMNO) ปี ค.ศ. 1951 (UMNO) 20 ปี และ จน ใน ปี ค.ศ. 1954 ค.ศ. 1955 มี การ เลือกตั้ง ขึ้น เป็น ครั้ง แรก นับ เป็น ทางการ ตั้งแต่ วัน ที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1957 จนถึง 22 กันยายน ค.ศ. 1970

























การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
บุคคลสำคัญของประเทศมาเลเซีย
ดร.มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (Dr. Mahathir bin Mohamad)
4 ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด นายกรัฐมนตรีคนที่ เป็นผู้วางรากฐานพัฒนาประเทศในรูปแบบของแผนพัฒนาประเทศที่มีชื่อว่า VISION 2020 ซึ่งเป็นผู้นำมาเลเซียสู่ความเจริญทัดเทียมนานาประเทศ
มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของประเทศมาเลเซีย
ประวัติ
มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (ยาวี: محضير بن محمد อังกฤษ: Mahathir bin Mohamad) เกิดที่รัฐเกดะห์ วันที่ 10 กรกฎาคม เมื่อปี พ.ศ.2468 เป็นหนึ่งใน 4 ขอนายกรัฐมนตรีที่มีชื่อเสียงของมาเลเซีย ภายใต้พรรครัฐบาลที่เขาจัดตั้งขึ้นรวมระยะเวลาทั้งสิ้น 22 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 2546 จนถึงปี ทำให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียที่อยู่ในวาระที่นานที่สุด เขา จบแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมาลายา ประเทศสิงคโปร์ เมื่อ พ.ศ.2498ทำงานเป็นหมอได้ 2 ปี ก่อนลาออกจากราชการ สมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐบ้านเกิด เป็น ส.ส. 14 ปี อยู่ ก่อนที่จะเข้าสู่รัฐสภาในปี พ.ศ. 2507 เขาทำหน้าที่อยู่ระยะนึงก่อนที่จะสูญเสียตำแหน่ง ส.ส ที่บ้านเกิดของเขาเอง หลังจากนั้น มหาเธร์ก็ถูกไล่ออกจากพรรคพันธมิตรอัมโน (UMNO) เมื่อ พ.ศ.2512 เมื่อนายก อับดุล ราซะก์ เข้ารับตำแหน่ง แล้วกลับมาในพรรค อัมโน อีกครั้ง หลังจากที่ อับดุล ราซะก์ ลาออก และหลังจากนั้นก็ได้รับเลื่อนตำแหน่งให้เป็น คณะรัฐมนตรีในปี พ.ศ.2519 และต่อมาก็ได้รับเลือกให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และต่อมาในปี พ.ศ.2524 มหาเธร์ก็ได้เข้าพิธีสาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย หลังจากการลาออกของ ฮุซเซน อน ถือเป็นการเปิดฉากเริ่มต้นการเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งที่นานที่สุดของ มาเลเซีย
ตลอดระยะการทำงานเป็นนายกรัฐมนตรีของ มหาเธร์ มาเลเซียเป็นประเทศที่มี อัตราการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจ สูงจนหน้าจับตาของโลก

ตนกู อับดุล ราห์มาน (Tunku Abdul Rahman)
ผู้นำมาเลเซียไปสู่เอกราชและเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศ ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาของประเทศ (Bapa oh Malaysia)


ตนกู อับดุล ราห์มาน
นายกรัฐมนตรีคนแรก ของประเทศมาเลเซีย
ผู้นำการเรียกร้องเอกราชให้แก่ประเทศมาเลเซีย
ได้รับยกย่องเป็นบิดาแห่งประเทศมาเลเซียหรือ Pope oh Malaysia
ประวัติ
ตนกู อับดุล ราห์มัน เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2446 ที่วังอิสตานาเปอลามิน (Istana Pelamin) เมืองอลอร์สตาร์ รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในขณะนั้นยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร เป็นบุตรของเจ้าพระยาไทรบุรี (อับดุลฮามิด) (เจ้าพระยาฤทธิสงคราม) (1)24 แห่งรัฐเกดะห์ กับหม่อมมารดาชาวไทยนามว่า หม่อมเนื่อง นนทนาคร[ 2] หรือมะเจ๊ะเนื่อง หรืออีกชื่อว่า ปะดูกา ซรี เจ๊ะเมินยาราลา (Paduka evenings Cik Menjalara) ชายาองค์ที่ 6 ของท่านสุลต่าน ซึ่งเป็นบุตรีของหลวงบุรานุรักษ์โดยตนกู อับดุล ราห์มันเป็นลูกชายคนที่ 14 จากบรรดาลูก 20 คนของสุลต่านอับดุลฮามิด
ตนกู อับดุล ราห์มัน มีพระเชษฐาร่วมพระมารดาคือ ร้อยเอกตนกู ยูซุฟ (รับราชการในกรมตำรวจ) เพื่อนสนิทของเจ้าคุณอนุสาสน์พณิชย์การ

ประวัติการศึกษา
เมื่อปี พ.ศ. 2452 (ค.ศ.1909) ตนกู อับดุล ราห์มัน ได้เข้าศึกษาในชั้นประถมมาเลย์ (Malay Primary School) ที่ถนนบาฮารู (Jalan Baharu) ในเมืองอลอร์สตาร์ ประเทศมาเลเซีย ต่อด้วยเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนในปกครองของอังกฤษท่านตนกู อับดุล ราห์มาน ท่านเป็นนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ในปี พ.ศ.2456/92 ขณะที่มีอายุ เพียง 10 ขวบ ถูกส่งตัวมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับพี่ชายของเขาอีก 3 คน ท่านเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นและเพื่อนสนิท คือ ถวิลหรือหลวงถวิลเศรษฐพาณิช เรียนอยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ 2 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2456-2458 ต่อมาปี พ.ศ. 2458 เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนปีนังฟรีสกูล(Penang Free School)
ปี พ.ศ.2461 Neighbor ท่านเป็นนักเรียนคนแรกที่ได้ทุนจากรัฐบาลของรัฐเกดะห์ ที่ไปศึกษาในสหราชอาณาจักร ไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยเซนต์แคทรีน (St Catharine's College) ในมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ และได้รับปริญญาบัณฑิตสาขาศิลปศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1925/2000
หลังจากกลับมาจากอังกฤษทำงานอยู๋ช่วงเวลาหนึ่ง ได้เดินทางไปศึกษาวิชากฎหมายต่อ ที่ Inner temples ที่ประเทศอังกฤษ แต่ต้องหยุดเรียน ในปี ค.ศ.1938 เนื่องจากช่วงนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2ขึ้น ทำให้เขาต้องหยุดเรียนและกลับมาที่มาเลเซีย หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ในปี ค.ศ. 1947 จึงกลับไปศึกษาที่ Inner temples อีก และจบการศึกษาในปี ค.ศ. 1949
ประวัติการทำงาน
หลังจบการศึกษาอับดุลราห์มานเข้ารับราชการในเกดะห์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองที่เขตกูลิม (Kulim) และ สุไหงปตานี (Sungai Petani) ในอาณานิคมของสหราชอาณาจักร(The Malay Society of Great Britain)
ปี ค.ศ.1949 ในช่วงแรกของอาชีพนักการเมือง เขาได้เข้ารับงานราชการเป็นที่แรกที่สำนักงานกฎหมายของเมืองอลอร์สตาร์ ต่อมาเมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นอัยการก็มีคำสั่งให้ย้ายไปประจำที่ กัวลาลัมเปอร์ในช่วงเวลานั้นได้มีกลุ่มลัทธิชาตินิยมในมาเลย์ ในการต่อต้านสหภาพมาลายาของอังกฤษ (Britain's Malayan Union) นำโดย ดาโต๊ะอันจาฟาร์ (Datuk Onn Jaafar)(UMNO ที่เป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ในมาเลเซีย) และท่านตนกู อับดุล ราห์มาน ได้สมัครเข้าร่วมกับพรรคอัมโน (UMNO)เดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 1951 เกิดวิกฤตทางการเมืองขึ้นได้รับเลือกให้เป็นประธานพรรคแนวร่วมแห่งสหพันธ์มาลายา (UMNO) คนใหม่และดำรงตำแหน่งเป็นเวลานานถึง 20 ปี และ จนในปี ค.ศ.1954 เป็นตัวแทนคณะผู้แทนเจรจาขอเอกราชมาเลเซียคืนจากสหราชอาณาจักร
ปี ค.ศ.1955 มีการเลือกตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก พรรคชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากแบบถล่มทลายในสภา ท่านได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเซีย นับเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1957 จนถึง22 กันยายน ค.ศ.1970 และหลังชัยชนะจากการเลือกตั้งท่านยังรณรงค์ต่อสู่เรียกร้อ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: