บุคคลสำคัญของประเทศมาเลเซียดร. มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (Dr. Mahathir bin Mohamad) นายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด ซึ่งเป็นผู้นำมาเลเซียสู่ความเจริญทัดเทียมนานาประเทศ เป็นผู้วางรากฐานพัฒนาประเทศในรูปแบบของแผนพัฒนาประเทศที่มีชื่อว่า VISION 2020มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของประเทศมาเลเซียประวัติมหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด (ยาวี محضير بن: Frances อังกฤษ: Mahathir bin Mohamad) เกิดที่รัฐเกดะห์ วันที่ 10 กรกฎาคม เมื่อปี ศ. 2468 พ. 4 ขอนายกรัฐมนตรีที่มีชื่อเสียงของมาเลเซีย ภายใต้พรรครัฐบาลที่เขาจัดตั้งขึ้นรวมระยะเวลาทั้งสิ้น เป็นหนึ่งใน ปี นับตั้งแต่ปี พ 22. ศ. 2524 จนถึงปี ทำให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียที่อยู่ในวาระที่นานที่สุด จบแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมาลายา ประเทศสิงคโปร์ เขา 2546 เมื่อ พ ศ. 2498ทำงานเป็นหมอได้. 2 ก่อนลาออกจากราชการ สมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐบ้านเกิด ปี เป็น ส. ส อยู่ ปี ก่อนที่จะเข้ 14.พ. าสู่รัฐสภาในปี ศ. 2507 ส เขาทำหน้าที่อยู่ระยะนึงก่อนที่จะสูญเสียตำแหน่ง. ที่บ้านเกิดของเขาเอง หลังจากนั้น มหาเธร์ก็ถูกไล่ออกจากพรรคพันธมิตรอัมโน ส (UMNO) พ. ศ เมื่อ. เมื่อนายก อับดุล ราซะก์ 2512 แล้วกลับมาในพรรค อัมโน อีกครั้ง หลังจากที่ เข้ารับตำแหน่ง อับดุล ราซะก์ ลาออก และหลังจากนั้นก็ได้รับเลื่อนตำแหน่งให้เป็น คณะรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2519 และต่อมาก็ได้รับเลือกให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และต่อมาในปี พ.ศ. 2524 มหาเธร์ก็ได้เข้าพิธีสาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย หลังจากการลาออกของ ฮุซเซน อน ถือเป็นการเปิดฉากเริ่มต้นการเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งที่นานที่สุดของ มาเลเซีย ตลอดระยะการทำงานเป็นนายกรัฐมนตรีของ มหาเธร์ มาเลเซียเป็นประเทศที่มี อัตราการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจ สูงจนหน้าจับตาของโลก ตนกู อับดุล ราห์มาน (Kg.tunku Abdul Rahman) ผู้นำมาเลเซียไปสู่เอกราชและเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศ ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาของประเทศ (Bapa of Malaysia) ตนกู อับดุล ราห์มานนายกรัฐมนตรีคนแรก ของประเทศมาเลเซียผู้นำการเรียกร้องเอกราชให้แก่ประเทศมาเลเซียได้รับยกย่องเป็นบิดาแห่งประเทศมาเลเซียหรือ Pope of Malaysiaประวัติตนกู อับดุล ราห์มัน เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ. ที่วังอิสตานาเปอลามิน ศ. 2446 (Istana Pelamin) รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในขณะนั้นยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร เป็นบุตรของเจ้าพระยาไทรบุรี เมืองอลอร์สตาร์ (อับดุลฮามิด) (เจ้าพระยาฤทธิสงคราม) [1] สุลต่านองค์ที่ แห่งรัฐเกดะห์ กับหม่อมมารดาชาวไทยนามว่า หม่อมเนื่อง นนทนาคร 24 [2] หรืออีกชื่อว่า ปะดูกา ซรี เจ๊ะเมินยาราลา หรือมะเจ๊ะเนื่อง (HR Manager Menjalara Seri Paduka) 6 ของท่านสุลต่าน ซึ่งเป็นบุตรีของหลวงบุรานุรักษ์ เจ้าเมืองนนทบุรีในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุล ชายาองค์ที่จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยตนกู อับดุล ราห์มันเป็นลูกชายคนที่ 14 จากบรรดาลูก 20 คนของสุลต่านอับดุลฮามิดตนกู อับดุล ราห์มัน มีพระเชษฐาร่วมพระมารดาคือ ร้อยเอกตนกู ยูซุฟ (รับราชการในกรมตำรวจ) เพื่อนสนิทของเจ้าคุณอนุสาสน์พณิชย์การประวัติการศึกษาพ. เมื่อปี ศ. 2452 (ค. ศ. 1909) ตนกู อับดุล ราห์มัน ได้เข้าศึกษาในชั้นประถมมาเลย์ (Malay Primary School) ที่ถนนบาฮารู (Jalan Baharu) ในเมืองอลอร์สตาร์ ประเทศมาเลเซีย ต่อด้วยเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนในปกครองของอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันเป็นวิทยาลัยสุลต่านอับดุลฮามิดท่านตนกู อับดุล ราห์มาน ท่านเป็นนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ในปี ศ. 2456 พ. ขณะที่มีอายุ เพียง ขวบ ถูกส่งตัวมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับพี่ชายของเขาอีก 10 3 คน ท่านเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ในกรุงเทพมหานคร โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นและเพื่อนสนิท ถวิล คุปตารักษ์ ประเทศไทย คือ เรียนอยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ 2 หรือหลวงถวิลเศรษฐพาณิช จนถึงปี ปี พ. 2456-2458. ศ ต่อมาปี พ. ศ. 2458 เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนปีนังฟรีสกูล (Penang Free School)พ ปี. ศ. 2461 ท่านเป็นนักเรียนคนแรกที่ได้ทุนจากรัฐบาลของรัฐเกดะห์ ที่ไปศึกษาในสหราชอาณาจักร ไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยเซนต์แคทรีน (St Catharine's College) ในมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ และได้รับปริญญาบัณฑิตสาขาศิลปศาสตร์ ในปี ศ. 1925 ค.หลังจากกลับมาจากอังกฤษทำงานอยู๋ช่วงเวลาหนึ่ง ได้เดินทางไปศึกษาวิชากฎหมายต่อ ที่ประเทศอังกฤษ แต่ต้องหยุดเรียน Inner Temple ที่ ในปี ค. ศ เนื่องจากช่วงนั้นได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1938 ทำให้เขาต้องหยุดเรียนและกลับมาที่มาเลเซีย หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง 2ขึ้น ในปี ค. ศ จึงกลับไปศึกษาที่ 1947 Inner Temple อีก และจบการศึกษาในปี ศ. 1949 ค.ประวัติการทำงานหลังจบการศึกษาอับดุลราห์มานเข้ารับราชการในเกดะห์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองที่เขตกูลิม (Kulim) และ สุไหงปตานี (Sungai Petani) ในอาณานิคมของสหราชอาณาจักร ได้รับเลือกให้เป็นประธานของสมาคมมาเลย์ของสหราชอาณาจักร (the Malay Society of Great Britain)ปี ค. ศ ในช่วงแรกของอาชีพนักการเมือง 1949 ต่อมาเมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นอัยการก็มีคำสั่งให้ย้ายไปประจำที่ กัวลาลัมเปอร์ และหลังจากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานศาล ในช่วงเวลานั้นได้มีกลุ่มลัทธิชาตินิยมในมาเลย์ เขาได้เข้ารับงานราชการเป็นที่แรกที่สำนักงานกฎหมายของเมืองอลอร์สตาร์ ในการต่อต้านสหภาพมาลายาของอังกฤษ (Britain's Malayan Union) นำโดย ดาโต๊ะอันจาฟาร์ (Datuk Onn Jaafar) นักการเมืองของมาเลเซียที่เป็นผู้นำขององค์การประชาชาติมาเลเซียหรือพรรคแนวร่วมแห่งสหพันธ์มลายา (UMNO ที่เป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ในมาเลเซีย และท่านตนกู อับดุล ราห์มาน ได้สมัครเข้าร่วมกับพรรคอัมโน) (UMNO) ท่านเป็นนักการเมืองเชื้อสายชาวมาเลย์ที่ได้รับความนิยมและยอมรับจนได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าสาขาของพรรคอัมโนในรัฐเกดะห์ศ เดือนสิงหาคม ปี ค. 1951 เกิดวิกฤตทางการเมืองขึ้นได้รับเลือกให้เป็นประธานพรรคแนวร่วมแห่งสหพันธ์มาลายา (UMNO) 20 คนใหม่และดำรงตำแหน่งเป็นเวลานานถึง และ จนในปี ปี ค. ศ เป็นตัวแทนคณะผู้แทนเจรจาขอเอกราชมาเลเซียคืนจากสหราชอาณาจักร, 1954ปี ค.ศ. 1955 มีการเลือกตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก พรรคชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากแบบถล่มทลายในสภา ท่านได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเซีย นับเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1957 จนถึง22 กันยายน ค.ศ. 1970 และหลังชัยชนะจากการเลือกตั้งท่านยังรณรงค์ต่อสู่เรียกร้อ
การแปล กรุณารอสักครู่..
